ส่งท้าย 2015 สวัสดี 2016

ส่งท้ายปลายปี มาทบทวนตัวเองหน่อยดีกว่าปี 2015 นี้ทำอะไรไปบ้าง ได้ผลลัพธ์และเรียนรู้อะไร
ปีนี้อยู่กับ Budnow ทั้งปี แทบจะไม่ค่อยได้ทำอะไรอย่างอื่นเลย มีโปรเจคหนังสืออยู่แค่เล่มเดียว(เป็นโปรเจคที่ทรหดมาก) ซึ่งน่าจะเปิดตัวต้นปี 2016 ไว้คอยดูกันว่ามันจะปังไหม

เริ่มต้นปี 2015 ฟ้าสดใส ป๋ามาก เงินเยอะ Budnow ใช้เวลากว่า 3 เดือนในการพัฒนา bud warranty สุดท้าย project นี้ถูก pending ไว้
เกิดอะไรขึ้น? พบว่าเราโฟกัสและให้ความสนใจกับคนที่ไม่ได้สนใจเราในขณะที่เราไม่มี Core product ความเป็นความตายของเราขึ้นอยู่กับเค้า เป็นโฟกัสที่สิ้นคิดมาก
สุดท้ายสิ่งที่เรียนรู้คือเอกสารก็แค่กระดาษใบเดียว ถ้าลูกค้าบอกว่าไม่เอาก็แค่นั้น เหมือนไข่ที่ใส่ในตระกร้าใบเดียวแล้วเอาไปฝากไว้กับคนแปลกหน้า
Product จะมีค่าอยู่ที่คน อยู่ที่ทีมงานจะเอาไปใช้ ไม่ได้อยู่ที่คำว่า “ฟรี” ดังนั้นต่อให้เราทำดีแค่ไหน ถ้าคนที่เราอยากให้เค้าใช้ เค้าไม่เห็นค่า มันก็ไม่มีประโยชน์
ส่วนเมษาเสียไปกับช่วงหยุดยาว เรียกว่าแทบไม่ได้งานอะไรเลย สรุปต้นปีเสียเวลาไปเปล่าประโยชน์ 1 Quarter เลยทีเดียว

นอกจากนั้นเวลาส่วนใหญ่ก็ใช้กับลูกค้าที่รักกับโปรเจค SCG ช้างเพื่อนช่าง เป็นโปรเจค Customization แบบไม่หลงเหลือ Core product เลย
แต่อันนี้ลูกค้าเห็นค่า Product นะ เพียงแค่ Product ที่เค้าใช้ เราไม่สามารถเอาไปขายคนอื่นได้ มันคือสิ่งที่ทำสำหรับเค้าเท่านั้น
แม้งานนี้จะสามารถสร้าง Revenue ให้บริษัท แต่ก็ใช้ Resource เยอะมาก ในการ maintain ระบบ เนื่องจากการทำงานภายในแบบ adhoc และอะรุ่มอร่วยกับลูกค้ามาก
นี่ก็งานที่ทำให้สูญเสียโฟกัสจาก Core product ไปพอสมควร เพราะบางทีเกิดปัญหา มี bug ในระบบ เราก็ต้องรีบจัดการให้ลูกค้าก่อน

Entrepreneur

ยังไรก็ตามหลังจากที่ตั้งหลักได้ ก็ได้พยายามพัฒนาตัว Core product ที่เราเรียกว่า bud มาเรื่อยๆ
จากวันแรกๆ ที่ออกมาให้คนเค้าด่า จนมาวันนี้ก็ยังมีคนด่าอยู่ แต่ก็มีคนเอาไปใช้ได้ประโยชน์ และมี feedback ที่เอากลับมาพัฒนาได้อีก
และที่สำคัญแทนที่จะพยายามขยายรับคนเยอะๆ เราได้เรียนรู้ว่า คนเยอะๆ แล้วไม่มี productivity มันก็ไม่ได้ต่างจากบริษัทใหญ่ๆ แต่เค้ามี resource เยอะกว่าเผาเงินได้เยอะกว่า
บริษัทเล็กๆ ไม่ควรเผาเงินไปกับทรัพยากรที่สูญเปล่า ทำให้ผมนึกถึงตอนเรียน MBA วิชา Entrepreneur เลย คุ้นๆ มีเพื่อนพูดว่า
“ถ้าเรามีเงินจำกัด ยืมได้ยืม ขอได้ขอ ขโมยได้ขโมย” ผมยังแอบตลกมันอยู่เลยว่า เอาจริงหรือ วันนี้เพิ่งคิดได้ว่ามันมีส่วนที่จริงแฝงอยู่ในประโยคนี้
ยืมได้ยืม => ไม่จำเป็นต้องแค่ยืมเงิน แต่เราสามารถยืม resource อื่นๆ จาก Partner ได้เช่น จัดงานสัมมนา ทำไมต้องเช่าก็หาคนที่มีสถานที่ยืมเค้าสิ ได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย
ขอได้ขอ => ทุกสิ่งที่ทุกอย่างไม่จำเป็นต้องใช้เงินซื้อ มีคนที่ยินดีเอาของ เอาแรง มาช่วยเราเสมอหากเค้าได้ประโยชน์ด้วย อย่างเช่น ของแจกฟรีต่างๆ ที่ Partner อยากแจกอยู่แล้ว เราก็เอามาช่วยเค้าแจก
ขโมยได้ขโมย => อันนี้ไม่ได้ในขโมยของ แต่ที่ง่ายที่สุดคือการขโมยไอเดีย the great artist steal หากเคยได้ยิน Netflix ตอนเริ่มต้นก็ลอกหน้าเว็บ Amazon มาเลย แค่เปลี่ยนโลโก้กับเนื้อหา เพราะมัน prove มาแล้วว่า user ใช้แบบนี้เป็น

เรื่องงานออกบูธและสัมมนา ทั้งปีพาทีมไปออกดังต่อไปนี้
(1) Smart SME Day ที่ C Asean วันที่ 29 มกราคม 2015
ตอนนั้นไปร่วมแบบยังไม่มี product ในมือ ได้แค่คุยๆ เสร็จจบงานก็ยังไม่มีอะไร
(2) Smart SME Expo 2015 ที่ อิมแพ็คเมืองทองธานี วันที่ 2-5 กรกฎาคม 2015
ปั่นกันสุดชีวิตช่วง Quarter 2 สุดท้ายงานออกมาเผามาก
และงานนี้เรายังออกผลิตภัณฑ์ใหม่คือ bud expo สำหรับงานอีเวนท์ เป็นเกมไว้สะสมแต้มล่ารางวัลจากการเก็บรหัสตามบูธต่างๆ (ทำทั้งๆ ที่ตัว Core product ยังเก็บงานไม่เนี๊ยบ)
ผลลัพธ์หลังจบงานคือ
1) exhibitor หรือ คนมาออกบูธ ที่จะมาเป็น potential ร้านค้าที่จะใช้ระบบ เข้าใจผิดคิดว่าเราเป็นแอปเกมเอาไว้เล่นงานออกอีเวนท์
2) visitor หรือ คนมาเดินงาน ก็โหลดแอปไปเพื่อล่ารางวัลจริงๆ ก็มีทั้ง happy ได้ของฟรีกลับบ้าน และป้าๆ ที่เก็บไม่ครบก็มาบ่นที่บูธจะเอาของฟรีๆๆๆ

smart-sme-expo

(3) Bkk Startup Job fest ที่ C Asean วันที่ 25-26 กรกฎาคม 2015
เป็นงานรวบรวมบริษัท Startup ออกงานไปหาคนอยากทำงานด้วย
แต่ด้วยความเป็นบริษัทเล็กที่ยังไม่ดัง แถมไปแบบไม่โดดเด่นเด้งอะไร
สุดท้ายเราก็ได้แต่คนกรอกใบสมัครเอาไว้ แต่ไม่ได้คนมาร่วมงานด้วยเลย (คือเปลือง resource อีกแล้ว)
(4) งาน RetailExAsean ที่ อิมแพ็คเมืองทองธานี วันที่ 25-27 สิงหาคม 2015
เป็นงานไม่ใหญ่ คนไปร่วมไม่เยอะ เราก็ไม่ได้บูธของตัวเองแต่ไปร่วมอยู่ในบูธ VISA จากความอนุเคราะห์ของ Paysbuy
งานนี้ได้เปิดตัวคร่าวๆ แต่พองาม จับมือ 4 Partners ได้แก่ RangyPOS, Pay Xpress, ZipEvent และ bud (แต่ก็ยังไม่ได้ทำอะไร solid นะมารวมกลุ่มกันไว้ก่อน)
หลังงานถึงจะได้ work กันมาเรื่อยๆ จนได้ Total Solution สำหรับ SMEs ในการเอา RangyPOS ไปบันทึกการซื้อขายสินค้า เอา Pay Xpress ไปรับรูดบัตรเครดิต และเอา bud ไว้เก็บสะสมแต้มให้ลูกค้า
(5) งานสัมมนา “หาลูกค้าใหม่ รักษาฐานลูกค้าเดิมด้วย bud application” ที่ สถาบันสอนอาชีพชี้ช่องรวย วันที่ 23 กันยายน 2015
เข้าสู่ปลาย Quarter 3 ลองจัดงานสัมมนาของตัวเองดูบ้าง งานนี้ไม่มีอะไรน่าสนใจ
(6) Women เม้าท์ ครั้งที่ 6 ตอน Startup & SME clinic ที่ อุทยานนวัตกรรมแห่งชาติ วันที่ 28 พฤศจิกายน 2015
งานนี้คุณฝนชวนไปร่วม ก็เลยพาน้องๆ ไปเปิดหูเปิดตา ได้ลูกค้ามานิดหน่อย
(7) งานสัมมนา กลยุทธ์ IT โกยเงินล้าน สำหรับธุรกิจร้านอาหาร ที่ อุทยานนวัตกรรมแห่งชาติ วันที่ 22 ธันวาคม 2015
ส่งท้ายปลายปี ขอจัดงานสัมมนาของตัวเองแบบจริงๆ จังๆ อีกสักครั้ง โดยเชิญ Wongnai และ Synature มาเป็นวิทยากรรับเชิญ
ผลตอบรับดีมาก คนสมัครเข้ามามากมาย แต่สุดท้ายตามสมการการจัดงานฟรี คือ มาครึ่งเดียวของที่ลงทะเบียน
งานนี้ได้เรียนรู้ความเป็นมืออาชีพในการหาร้านค้าของ Wongnai จัดเต็มและน่าสนใจมาก คือ เค้าพาทีม Sales มาด้วย พอเบรคก็คือแต่ละคนช่วยกันไปคุยกับร้านค้ารายตัวเลย wow ทำไมเราไม่เคยทำแบบนี้นะ (ไว้ปีหน้าเอาบ้าง)

ส่วนงานบรรยายที่ผมได้ไปพูดในฐานะ Budnow ได้แก่
(1) หัวข้อ “เรียกลูกค้าใหม่รักษาลูกค้าเก่าด้วย ด้วย bud application” ในงาน Smart SME Expo 2015 วันที่ 4 กรกฎาคม 2015
(2) หัวข้อ “รู้จัก รู้ใจ รับมือ ลูกค้า ในยุคดิจิตอลสำหรับ ธุรกิจแฟรนไชส์ และ ธุรกิจ SMEs” ในงาน Thailand Franchise & Business Opportunities 2015 วันที่ 17 กรกฎาคม 2015
(3) หัวข้อ “ปรับธุรกิจร้านอาหารให้ก้าวทันโลกยุคดิจิตอล #3” โดย Wongnai ที่ K Expert Center จามจุรีสแควร์ วันที่ 2 กันยายน 2015
(4) หัวข้อ “ปรับธุรกิจร้านอาหารให้ก้าวทันโลกยุคดิจิตอล #4” โดย Wongnai ที่ S2M Cafe’ จามจุรีสแควร์ วันที่ 21 ตุลาคม 2015

3-partnership

ด้าน Partnership ได้คุยเยอะเลย บางรายได้เริ่มงานไปแล้ว บางรายอยู่ในระหว่างพัฒนา ส่วนบางรายก็เงียบหายกันไป
(1) bud His&Her
ตอนนี้ใครเป็นลูกค้า His&Her สามารถเพิ่มบัตรของตัวเองเข้ามาใน bud application ได้แล้ว และใช้ His&Her Plus Point ในการแลกสิทธิพิเศษต่างๆ ที่มีได้เลย รออะไรหละครับ เชิญเลย!
(2) bud + RangyPOS + Pay Xpress (by Paysbuy)
ขยับกันมาเรื่อยๆ ทีละนิด ทีละหน่อย ปี 2016 น่าจะได้เห็น momentum กันซะที ที่ผ่านมาจัดกิจกรรมเล็กๆ กันเพื่อหา Case Study ไว้ให้ร้านค้าและลูกค้าเห็นประโยชน์ของ Solution
ล่าสุดปลายปี เราลองเอาไปให้คนเรือแถวท่าพระอาทิตย์ได้ลองใช้งานกัน ก็ถือเป็น trial project ที่น่าสนใจ เพราะ behind the scene คือ เรากำลังเข้าไปเปลี่ยนชีวิตของคนเรือให้ดีขึ้น CHANGE
ครับลองนึกภาพคนเรือที่ไม่เคยเอาเทคโนโลยีอะไรไปใช้ในการทำมาหากินของตัวเอง ต่อไปเค้าจะมีโปรแกรม POS ที่เอาไว้ให้ลูกค้าจิ้มได้ว่าอยากไปไหน มีรูป มีวิดีโอ ให้ดูด้วย และถ้าจะจ่ายตังค์ด้วยบัตรเครดิตก็ทำได้ไม่ยาก จะมีโปรโมชั่นสะสมแต้มหรือสิทธิพิเศษให้ลูกค้าก็ทำได้เองสบายๆ ถ้ามันเกิดจริงๆ มันคือ CHANGE ครับ ต้องดูกันต่อไป
(3) bud pRoMiSe (by Synature)
อันนี้ต้องติดตามตอนต่อไปครับ เพราะรอ integrate ด้านเทคนิคให้จบ แล้วตบด้วย business approach ในการเจาะกลุ่มลูกค้า ปีหน้ามาดูกันต่อ นี่ก็ใกล้มากแล้ว อีกนิ๊ดอีกนิด

เรื่องสิทธิพิเศษ (privilege) ต่างๆ ใน bud จาก Partner
ปีนี้คุยกับหลายที่มาก ถ้าใครตาม facebook ผมจะมีทั้งที่โพสต์รูปไว้และบางที่ก็แค่กล่าวถึง ก็ขอสรุปถึงผู้ที่พอจะกล่าวถึงได้ดังต่อไปนี้ครับ
1. Ookbee ต้องขอบคุณ คุณหมู ที่กรุณาให้สิทธิพิเศษ e-book ราคาประหยัด มาขึ้นแสดงใน bud
2. 7-Catalog อันนี้ต้องขอบคุณทีมงาน 7-Eleven ที่กรุณาส่งของมาให้เลือกเดือนละ 5 รายการ ใครสนใจกดรับสิทธิ์แล้วไปรับของที่ 7 ได้เลยนะครับ
3. แอดวานซ์เว็บ ขอบคุณ คุณเปิ้ล ที่รวบรวมบัตรเติมเงินต่างๆ เอาไว้ให้เรียบร้อยแล้ว แค่ต่อ API จบเสร็จงานทันที
4. Primetime ขอบคุณ คุณเต๋า เอา Package ดูหนังออนไลน์ มาช่วยด้วยอีก 2 อัน (ตอนนี้เราแจกฟรีกันไปเลยแค่ดาวน์โหลด bud ก่อนสิ้นปี 2015 ครับ ด่วน! ก่อนของหมด)

อีกงานที่น่าสนใจคือ การเปิด API ในการเชื่อมต่อกับลูกค้า ใช้ bud เป็นระบบหลังบ้านในการบริหารจัดการเรื่อง Point
เรามี bud ClaimDi – integrate เสร็จ test เรียบร้อย พร้อมเปิดใช้บริการแล้ว ขอบคุณพี่แจ๊คที่ให้ความไว้วางใจครับ
และยังมีอีก 2 startup ที่รอๆ อยู่ ถ้าเสร็จแล้วเดี๋ยวจะเปิดตัวอีกที

อ้อ มีเรื่องที่ไม่กล่าวถึงไม่ได้คือไปชนะที่ 2 งาน Thailand Startup SmartCamp 2015 มา
ซึ่งจะบอกว่าเตรียมตัวน้อยมาก พอดีคนเข้าแข่งไม่เยอะ 555
แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือ ได้เข้าไป Partner เล็กๆ กับ IBM Thailand ได้รู้จัก Bluemix กับ Watson เดี๋ยวมีอะไรมันส์ๆ จะประกาศอีกที

ibm-startup

และยานแม่ พีเพิลมีเดียกรุ๊ป ได้ สามารถคอร์ปอเรชั่น เข้ามาถือหุ้นบางส่วน
เลยเป็นอนิสงค์ให้ Budnow กำลังมีความร่วมมือบางอย่างกับ EDTguide และ i-mobile อันนี้ก็ยังพูดอะไรไม่ได้มากนัก เดี๋ยวก่อนๆ

งานสมาคมเพื่อสังคม ชุมชนต่างๆ ได้เข้าไปมีส่วนร่วมเล็กๆ น้อยๆ อยู่ 2 ที่คือ
(1) สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กลุ่ม ICT
(2) สมาคมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทย (ATSI)

โอ้วสุดท้าย ลูกค้าสุด Love ที่เปิด Product line ใหม่ ต้องขอขอบพระคุณอย่างแรงคือ bud Coffman ครบเครื่องเรื่องกาแฟ
ด้วยข้อจำกัดบางอย่าง สุดท้าย bud ก็คลอด application clone ที่ใช้ engine ของ bud สำหรับร้านค้าที่มีความต้องการโดยเฉพาะ
ก็เป็นไอเดียเอาไว้ขายลูกค้ารายอื่นๆ ต่อไปกันครับ

คือโอกาสมันเยอะมากเลย และอันที่จริงก็ยังมีอีกหลายๆ โปรเจค ที่ยังค้างคาอยู่ แต่ไม่อาจเปิดเผยในที่สาธารณะได้ 555 อุ๊ปไว้ก่อน เดี๋ยวปีหน้าเจอกันครับ
สรุปๆๆ ปี 2015 กำลังผ่านไปได้ด้วยดี ได้เล่นจริง ได้เจ็บจริง ได้เรียนรู้อะไรบางสิ่ง ได้มีงานทำ ได้เจอคนดีๆ ได้คุย ได้ใช้ชีวิต
ถ้าถามว่าอยากย้อนเวลากลับไปแก้ไขอะไรไหม บอกเลยว่า “มาก” แต่เมื่อมันทำไม่ได้ก็ต้องทำวันนี้ให้ดีที่สุดต่อไป และพยายามเข้าไว้เพื่อวันข้างหน้า สู้ต่อไป ณ บัดนาว

Leave a Reply