ช่วงสงกรานต์ปีนี้มีโอกาสได้ร่วมทริปกับทาง สวทช. มาผจญภัยเมืองจีนที่ปักกิ่งและกุ้ยหยาง เป็นโครงการความร่วมมือระหว่างประเทศของกระทรวงวิทย์ไทยกับจีน ในการเดินทางครั้งนี้ก็มีตัวแทนจากทั้งภาครัฐ เอกชน และสถาบันการศึกษา ประมาณ 20 ชีวิตเห็นจะได้ ก็เริ่มต้นจากสนามบินสุวรรณภูมิเช่นเคย เครื่องออก 23:50 ของคืนวันจันทร์ที่ 14 โชคดีเจอพี่โจ้ก่อนเลยได้ไปรอที่ lounge king power ด้วยกัน แล้วก็เดินทางด้วยเครื่อง TG674 ซึ่งค่อนข้างโล่ง ไม่แน่ใจว่าเพราะคนไทยไปเที่ยวญี่ปุ่นกันหมด หรือว่าคนกลัวจากเหตุการณ์ MH370 หายสาบสูญ แต่จะบอกว่าการเดินทางด้วยชั้นประหยัดช่วงกลางคืนถึงแม้จะประหยัดเวลา แต่ไม่สบายจริงๆ นอนก็นอนไม่ค่อยได้ (นอกจากจะได้นอนยาวเก้าอี้ 4 ตัว) จะโดนปลุกเป็นระยะๆ
แล้วเมื่อเครื่องลงจอดที่ Beijing Capital International Airport (PEK) พวกเราก็เดินกันออกมาป๋อเลยเพราะน่าจะมาเที่ยวบินแรกในช่วงเช้านี้ เวลาสักประมาณตีห้าครึ่งได้ (เมืองจีนเวลาเร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง) พอออกมาก็ต้องมารอทัวร์ไกด์คนจีนซึ่งพูดภาษาไทยได้คล่องมากๆ (คิดว่าคนไทยซะอีก) เค้าให้เรียกว่า คุณหมี และมีเถ้าแก่ชื่อ คุณสุเมธ ซึ่งตอนแรกก็คิดว่าคนไทยเหมือนกัน
การเดินทางครั้งนี้ค่อนข้างโหดตรงที่พอออกจากสนามบินเสร็จก็แวะกินติ๋มซำกันก่อนเข้าศูนย์ประชุมต่อเลย ไม่มีโอกาสได้ check-in แม้โรงแรมจะอยู่ไม่ไกลจากที่สัมมนาเสียเท่าไร โรงแรมที่พักครั้งนี้คือ Beijing North Star Continental Grand Hotel ซึ่งอยู่ติดกันศูนย์ประชุม Beijing International Convention Center เลย (มีทางเชื่อมถึงกันด้วย) โดยที่ตั้งแล้วบริเวณนี้อยู่ใกล้สนามกีฬารังนกมาก เดินไปประมาณ 10-20 นาทีก็ถึง ดังนั้นช่วงเย็นหลังประชุมจัดไปอย่าให้พลาด
สำหรับงานที่พวกเรามาร่วมคือ China (Beijing) International Technology Transfer Convention 2014 ในวันอังคารที่ 15 – วันพุธที่ 16 งานก็แบ่งเป็น Session ตามความสนใจ มีส่วนแสดงบูธอยู่นิดเดียวน่าผิดหวังมาก คงเพราะมันไม่ใช่งานแสดงสินค้า แต่เป็นการประชุมวิชาการ เนื้อหาที่คุยกันในงานก็ประมาณการนำเสนอผลงานต่างๆ ที่แย่ที่สุดคือ ล่ามจีนแปลอะไรมาอะ งงสนิท บาง session ดีใจเห็นฝรั่งแต่พอพูดปุ๊บโอ้วจีนมาเลยครับ ไม่ว่าชาติไหนๆ มาอยู่เมืองจีน จะซื้อใจคนจีนก็ต้องพูดจีนนะครัช
วันพฤหัสที่ 17 ก็มี Business Matching ในห้อง China-ASEAN Technology Transfer ครั้งนี้มีผู้ประกอบการไทย 2 คนที่คุ้นเคยกันดีไปนำเสนอผลงาน พี่โจ้ แห่ง Ecart studio ผู้ซึ่งได้เจอกันครั้งแรกจาก Tycoon Chic #2 Max SiamSquared ที่ได้รู้จักกันจาก S2M ผมว่าสองคนนี้มีความโดดเด่นในเรื่องจิตวิญญาณความเป็นผู้ประกอบการสูงมาก ครั้งก่อนผมได้ฟังเรื่องราวพี่โจ้ไปหน่อยนึง ครั้งนี้มีโอกาสได้ฟังเพิ่มและรู้จักพี่โจ้มากขึ้น ผู้ชายคนนี้มีความโนเนะคิคุแต่เอาจริงเอาจังในการทำงานมาก ทุกเรื่องสามารถเชื่อมโยงมาที่เรื่องแผนที่ (core product ของ Ecart studio) เหมือนผูกผันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเค้า ผมชื่นชมพี่โจ้ในเรื่องการนำเสนอที่เรียกได้ว่าใช้ทุกโอกาสที่มีคุยกับทุกคนเรื่อง product ของตนเอง ซึ่งคนที่จะทำเช่นนี้ได้ต้องมั่นใจใน product ของตัวเองมากๆ กล้าคลิก กล้าโชว์แบบ live ส่วน Max ผมว่าเป็นเจ้าคนนายคนที่มีความถ่อมตนสูง สามารถเข้ากับคนทุกคนได้อย่างกลมกลืน สามารถรับฟังเสียงของทุกๆคน มีเรื่องเล่าเรื่องคุยกับทุกๆคน Max มีความเท่ห์จากภายในที่ถ้าเป็นคนไม่สนิทไม่เคยคุยด้วยนานๆ จะไม่ได้สัมผัสความรู้สึกนี้
เสร็จจากงานที่ศูนย์ประชุม ก็ได้เวลาออกเดินทางต่อไปกุ้ยหยางด้วยเครื่อง CZ6188 ออก 14:50 ถึง 17:55 การตรวจตราภายในประเทศที่สนามบินเมืองจีนเข้มมาก power bank ห้ามโหลด แล้วตอนผ่านด่านก็ต้องเอาออกจากกระเป๋ามา scan ด้วย ไม่งั้นต้องโดนตรวจอีกรอบ พอมาถึงก็มีคนจากทางรัฐบาลจีนมารอรับ ระหว่างทางต้องอ้าปากค้างด้วยเห็นโครงการการก่อสร้างต่างๆ มากมายของบ้านนี้เมืองนี้ เค้าทุ่มทุนสร้างกันจริงๆ จังๆ ครับ ตึกสูงระฟ้าเหมือนที่เราเห็นแถว impact ที่นี้มีเป็นสิบๆ จินตนาการทุนสร้างไม่ออกเลย
วันศุกร์ที่ 18 พวกเราเรียกว่าได้รับเชิญมาเป็นแขกในงาน Guiyang Summit of China (Beijing) International Technology Transfer Convention 2014 (เป็นภาคต่อจากปักกิ่ง) คิดว่าเค้าคงอยากให้พวกเรามาเป็นสักขีพยานในความยิ่งใหญ่อลังการงานสร้างของที่นี้
ผมไปเข้าฟังช่วง The Big Data of Information Technology and Smart City วิทยากรส่วนใหญ่ก็ขายของ บริษัทตัวเองทำอะไร มีลูกค้า reference อะไรบ้าง มีตั้งแต่ Oracle, Tableau Software, EMC, Informatica ตอนเย็นก็ได้มีโอกาส มาเดินชมเมือง โดยมีคนจีนผู้ประสานงานที่พวกเราเรียกเธอว่า “sugar” มาด้วย แต่รู้ไหมครับสถานที่ท่องเที่ยวก็คือที่หลอกเงินลูกค้า ขนาดมีคนจีนมาด้วยยังโดนพ่อค้านิสัยไม่ดีโกงเลย ฮืมมมม
วันเสาร์ที่ 19 เป็นวันชิวครับ ตอนแรกก็คิดว่าจะได้ไปเยี่ยมชม Foxconn แต่เป็นไงมาไงไม่รู้กลายเป็นไปชมสวนซะได้ ก็สวยดีไม่มีอะไรมาก ช่วงบ่ายก็กลับมานั่งทำงานที่โรงแรมต่อ ถือเป็นช่วงเวลาดีๆ ที่ได้ทบทวนอยู่กับตัวเอง ในขณะที่พวกเราคนไทยเหมารถไปทัวร์เมืองเก่ากันต่อ มาเที่ยวนี้แทบไม่ได้ใช้เงินเลย (อัตราแลกเปลี่ยน 1 หยวน ประมาณ 5.34 บาท)
วันอาทิตย์ที่ 20 วันสุดท้ายของทริป เห็นกำหนดการแล้วบอกได้คำเดียวว่า”เสียเวลามาก” เพราะต้องเดินทางจากกุ้ยหยางตั้งแต่ 8 โมงเช้า (CA4161) ไปถึงปักกิ่งเวลา 10:45 แล้วก็รอเวลาถึง 17:05 ถึงจะขึ้นเครื่องกลับมากรุงเทพ (TG615)
คำถามคือกุ้ยหยางมันอยู่ใกล้ประเทศไทยมากๆ แล้วแต่ต้องบินกลับไปปักกิ่ง แล้วต้องเอาเวลาไปทิ้งอีกหลายชั่วโมงก่อนขึ้นเครื่อง แล้วก็บินอีกสามสี่ชั่วโมง เพื่ออะไรครัช 555 ไม่เครียดๆ ก็จบไปกับการเดินทาง 7 วัน 5 คืนของทริปนี้ลงด้วยประการละฉะนี้ เอวัง
Leave a Reply