Rocket Internet

ไม่เท่แต่ทำเงินได้อาจเป็นนิยามของบริษัทนี้ Rocket Internet จากการก่อตั้งโดย 3 พี่น้องชาวเยอรมันตระกูล Samwer อันได้แก่ Marc, Oliver และ Alexander ในปี 2007

ปีถัดมา 2008 ได้ให้กำเนิด Zalando โดยมีแรงบันดาลใจมาจาก Zappos และก็สร้างต่อไปอีกหลายเว็บโดยใช้กลยุทธที่ว่าสร้างธุรกิจที่เป็น Inernet base จาก business model ซึ่งมีคนอื่น prove มาแล้ว หรือเรียกง่ายๆ ว่าไปลอกอะไรที่มีคนทำว่าดี ไปทำในอีกที่นึงที่ยังไม่มีคนทำ อย่างที่เราคุ้นเคยกันดีในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็มี Lazada, Zalora, Food Panda, Easy Taxi พวกเขาใช้เวลา 7 ปีในการเปลี่ยนสถานะจาก GmbH (บริษัทจำกัด) กลายเป็น AG (บริษัทมหาชน) โดย IPO ที่ Frankfurt Stock Exchange ในปี 2014 ต่อมา 2015 เปลี่ยนเป็น SE (Societas Europaea) ตามระเบียบของ Euro กลายเป็น Rocket Internet SE ซึ่งก็ทำต่อมาเรื่อยๆ จนปี 2019 มีบริษัทในเครือกว่า 200 บริษัท พนักงานรวมทั้งหมดกว่า 4 หมื่นคน โดยมีมูลค่าบริษัทรวมกันกว่า 3 หมื่นล้านยูโร

Rocket Internet มักถูกคนอื่นดูถูกว่าเป็น copycat ไม่คิด ไม่ทำอะไรใหม่ๆ ให้โลกใบนี้บ้างเลย แต่เอาเข้าจริงๆ สิ่งที่พวกเขาทำก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะการ copy ธุรกิจจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งมันไม่ได้ยืนยันความสำเร็จ เพราะแต่ละท้องถิ่นก็มีความเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง คนเอเชีย ไม่เหมือน คนยุโรป หรืออเมริกา คนแอฟริกาก็มีความชอบ มีสภาวะแวดล้อมไม่เหมือนกัน สิ่งที่ Rocket Internet ทำเป็นมากกว่า VC (Venture Capital) พวกเขาลงไปดูถึงระดับ operation หา founder เป็นนักธุรกิจรุ่นใหม่ไฟแรงมาดำเนินการโดยให้หุ้นไปด้วยนิดหน่อย ให้พอรู้สึกเป็นเจ้าของ (ประมาณ 5-10%) คอยดูแลบ่มเพาะกันไป ลองผิดลองถูกจนสามารถเป็นที่ 1 ในพื้นที่นั้นๆ ทำให้ดีจนบริษัทต้นแบบต้องมาขอซื้อไป อย่างดีลที่มีชื่อเช่น CityDeal ที่ clone Groupon มาดำเนินการใน 16 ประเทศทั่วยุโรป เริ่มต้นใช้เงินลงทุน 20 ล้านยูโร มาสุดท้าย Groupon ก็มาขอซื้อกิจการไปที่มูลค่า $750 ล้าน

ปัจจัยความสำเร็จที่ผ่านมาของ Rocket Internet อยู่ที่

  1. การเลือก business idea ที่พิสูจน์มาแล้ว มาปรับให้เหมาะกับท้องถิ่น
  2. human resource การเลือก founder และทีมงานชุดแรกๆ ที่เข้าไปทำตลาด คือ ไปแบบเป็นกองทัพพร้อมรบ ไม่ใช่แบบ StartUp เด็กๆ ค่อยๆ สร้าง
  3. การเงิน เพราะจะลงทุนทั้งที่ต้องเล่นให้สุด Rocket Internet ไปทำธุรกิจที่ไหนก็พร้อมเอาเงินไปเผาจำนวนมหาศาลที่นั่น ทำใหญ่และระดมทุนเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ
  4. โตให้เร็ว พอทุกอย่างข้างต้นพร้อม สิ่งที่พวกเขาทำต้องการคือต้องเร็ว มีตัวอย่าง HelloFresh ใช้เวลาแค่ 40 วันในการ go live แล้วขยายตลาดไปสู่ 5 ประเทศ

อย่างไรก็ตามทุกสรรพสิ่งในโลกล้วนมีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ แลดับไป จากธุรกิจที่เหมือนจะดูดี ปี 2016 ผลประกอบการที่ประกาศออกมากลับทำให้นักลงทุนผิดหวังถึงหุ้นตกไป 50 กว่า % ปัญหาเนื่องมาจาก StartUp ช่วงหลังๆ ที่ทำไม่ประสบความสำเร็จ burn เงินมากเกินไป แต่ไม่สามารถครอบครองตลาดได้ อย่าง Easy Taxi ที่ต้องถอนตัวจากเอเชีย ไปโฟกัสที่ละตินอเมริกา บางรายก็ขาดทุนจนต้องปิดตัวลง หรือบางรายก็ต้องขายถูกกว่าที่ควรจะเป็น อย่าง Lazada ที่ขายให้ Alibaba ไปเป็นพันล้านเหรียญ แต่เอาเข้าจริงบริษัทนี้ก็ระดมทุนมาเป็นพันล้านแล้วเช่นกัน เหมือนขายไปไม่ได้กำไร แต่ถ้าไม่ขายก็ต้องปิดตัวลงเพราะทุนไม่พอจะไปต่อ แล้วในปี 2017 จากบริษัทขาดทุนก็สามารถระดมทุนมาได้อีก $1 พันล้าน ชีวิตมีขึ้นมีลงจริงๆ ครับ

นักวิเคราะห์หลายคนบอกว่า Rocket Internet ควรกลับไปเป็น private company ตามเดิม เพราะพอเข้ามาอยู่ในตลาดหุ้น ต้องประกาศทิศทางในการดำเนินธุรกิจให้คนอื่นได้รู้ มันสูญเสียอำนาจการแข่งขัน หนำซ้ำด้วยเทรนด์การก่อตั้ง StartUp ที่เริ่มกระจายไปทั่วโลก ทำให้ผู้เล่นท้องถิ่นเริ่มจะสร้างธุรกิจเองได้ ระดมทุนเองเป็น การไม่มีนวัตกรรมเลยก็เริ่มอยู่ยากขึ้นเรื่อยๆ

Leave a Reply