ลูกผู้ชายล้างแค้น 10 ปีไม่สาย

รู้ไหมครับ ทำไมหนังจีนกำลังภายในถึงชอบบอกว่า “ลูกผู้ชายล้างแค้น 10 ปีไม่สาย”
สั้นๆ คือเพราะเวลาสิบปีจะทำให้เรารู้ว่าเราจริงจังกับเรื่องนั้นจริงๆ ไหม

จากบทความที่พี่ชายท่านหนึ่งเคยแชร์ให้ผมอ่านเมื่อหลายปีก่อน ชื่อว่า “Teach Yourself Programming in Ten Years” โดย Peter Norvig
เค้าเล่าเปรียบเปรยไว้ว่า ทุกวันนี้ หากเราเดินเข้าไปในร้านหนังสือ ก็มักจะเจอซีรีสย์หนังสือประเภทเรียนลัด เรียนเร็ว เป็นใน 7 วัน ใน 24 ชั่วโมง
เค้าเล่าเปรียบเปรยไว้ว่า ทุกวันนี้ หากเราเดินเข้าไปในร้านหนังสือ ก็มักจะเจอซีรีสย์หนังสือประเภทเรียนลัด เรียนเร็ว เป็นใน 7 วัน ใน 24 ชั่วโมง
แต่เอาเข้าจริง ยกตัวอย่าง การเรียนภาษา C++ ใน 3 วัน
สิ่งที่ทำได้อาจจะแค่เรียนว่ามีคำสั่งอะไรบ้าง ยิ่งถ้าเรามีพื้นฐานภาษาอื่นมาก่อนเช่น ภาษา Basic ก็จะทำให้เรารู้ว่า เมื่อจะเขียนโปรแกรมด้วยภาษา C++ ต้องเขียนอย่างไรแทน
ที่น่าเสียดายคือ ถ้าแค่นั้นเราจะยังไม่ทันได้รู้เลยว่าภาษาใหม่นี้มีแนวคิดอย่างไร มันดีหรือไม่ดีอย่างไรถึงควรเปลี่ยนมาใช้ภาษานี้

มีงานวิจัยหลายๆ ชิ้นแสดงให้เห็นว่า จริงๆ แล้วมันใช้เวลาประมาณ 10 ปีในการสร้างผู้เชี่ยวชาญในศาสตร์แขนงใดแขนงหนึ่งขึ้นมาสักคนหนึ่ง
ไม่ว่าจะเป็น การเล่นหมากรุก การแต่งเพลง การระบายสี การว่ายน้ำ เทนนิส ฯลฯ
กุญแจที่สำคัญคือการซ้อม ซึ่งไม่ใช่แค่การทำซ้ำหลายครั้งเท่านั้น มันยังรวมถึงการท้าทายตัวเองไปยังจุดที่ยากขึ้นไปเรื่อยๆ ลดความผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ ลงให้ได้มากที่สุด
ขอโทษด้วยที่ไม่มี Shortcut ของความสำเร็จอยู่จริง คนมีชื่อเสียงเป็นอัจฉริยะอย่าง Mozart เริ่มต้นเมื่ออายุ 4 ขวบและใช้เวลามากกว่า 13 ปีในการเริ่มต้นผลงานระดับ world class

หนึ่งงานวิจัยที่น่าสนใจโดย Malcolm Gladwell ได้เขียนไว้ในหนังสือ Outliers ว่าได้ทำการศึกษาเด็กนักเรียนที่ Berlin Academy of Music
เขาเปรียบเทียบนักเรียน 3 กลุ่ม ระดับท็อป ระดับกลาง และระดับท้าย ของโรงเรียนแล้วพบว่า
นักเรียนทุกคนเริ่มต้นพร้อมๆ กันตอนอายุประมาณ 5 ขวบ แต่ละคนได้รับการฝึกฝนพอๆ กันประมาณ 2-3 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
แต่พออายุประมาณ 8 ขวบ ความแตกต่างเริ่มปรากฏ นักเรียนที่อยู่ในระดับท็อปคือ คนที่ซ้อมมากกว่าคนอื่นประมาณ 6 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
และก็ 8 ชั่วโมงต่อสัปดาห์เมื่ออายุ 12 เพิ่มขึ้นเป็น 16 ชั่วโมงต่อสัปดาห์เมื่ออายุ 14 เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งอายุ 20 ก็จะมากกว่า 30 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
ซึ่งนักดนตรีที่สุดยอดเหล่านี้ พิจารณาแล้วตัวเลขที่แท้จริงคือ ผ่านการฝึกฝนมามากกว่า 10,000 ชั่วโมงทั้งนั้น

ยกตัวอย่างใกล้ตัวที่เห็นภาพได้ชัดๆ อย่างกีฬาวิ่ง ผมเชื่อว่าทุกคนเคยวิ่งครับ แต่การวิ่งแข่งมันไม่เหมือนวิ่งเล่น
นักวิ่งคนหนึ่ง อาจจะเริ่มต้นจากการวิ่ง 100 เมตรใน 10 วินาที
สิ่งที่เขาต้องทำคือ พยายามทำสถิติลดเวลาลงเรื่อยๆ ซึ่งการลดแต่ละวินาที มิลลิวินาที คือการเพิ่มทักษะการขยับกล้ามเนื้อ การหายใจ การทรงตัว
สิ่งเหล่านั้นวิทยาศาสตร์การกีฬามีคำตอบ มีทฤษฎี สามารถสอนกันได้ พูดให้ฟังได้ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่ทำตามได้

เคยสงสัยไหมครับ เวลาดูใครทำอะไรบางอย่างทางทีวี แล้วลองทำตามทันที เรากลับทำไม่ได้
ฤทธิ์เพื่อนผมคนหนึ่ง เขาไม่ใช่เด็กเรียนดี แต่เค้ามีมุมมองที่น่าสนใจมาก เขาพูดว่า การเอาโพยหรือการติวหนังสือแค่ไม่กี่ชั่วโมงก่อนเข้าห้องสอบมันไม่มีประโยชน์
เพราะตอนเจอข้อสอบจริง สมองเราจะหยิบข้อมูลหรือทักษะที่จำเป็นมาใช้ไม่ทัน เอามาประยุกต์ไม่ได้
การทำแบบฝึกหัดบ่อยๆ ทำข้อสอบซ้ำๆ หลายๆ ข้อ จะทำให้เราคุ้นเคย และสามารถทำข้อสอบได้จริง
นี่คือประโยคเด็ดที่เพื่อนผมคนนี้พูดตอนเราไปเรียนกวดวิชาภาษาอังกฤษกันเพื่อจะสอบไปเรียนต่ออเมริกา

ในชีวิตการทำงานของเรา ภาพที่ผมเห็นคุ้นตาคือ น้องๆ หลายคนมักจะชอบอ้างว่าไม่ชอบงาน แล้วก็เปลี่ยนงานทั้งๆ ที่ยังไม่รู้ตัวเอง
หลายคนยังไม่ได้พยายามฝึกฝนให้ตัวเองมีความเชี่ยวชาญในเรื่องที่ต้องรับผิดชอบ เจอความลำบากก็แค่เดินเลี่ยงมันไป
คนเรามักมีข้ออ้างมากมายในการไม่ทำอะไรสักอย่าง แต่จะมีสักกี่ครั้งที่เราจะพยายามทำอะไรบางอย่างเพื่อให้ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้
จงอย่าพูดว่าฝันของคุณคืออะไร จงทำและแค่โชว์ให้คนอื่นเห็นว่ามันคืออะไร แค่นั้นก็พอแล้ว

ไม่เชื่อลองดูสิครับหลายคนใช้ความคับแค้น ความยากลำบากสมัยยังเด็ก ยังเล็ก เป็นแรงผลักดันให้ตัวเองไปสู่จุดสูงสุด
แอบมาลองส่องๆ คนในวงการไอที ไม่ว่า Steve Jobs, Bill Gate, Mark Zuckerberg ล้วนแล้วแต่เคยเป็นเด็กมีปัญหาทั้งนั้น
แต่ปัญหาในชีวิตของเค้ากลับเป็นแรงผลักดันให้พวกเขาเหล่านั้นไปสู่จุดสูงสุดในวงการ มันสุดยอดไปเลยใช่ไหมครับ

สรุปก็คือ ถ้าอยากจะแก้แค้น จงไปฝึกวิชาให้เป็นยอดยุทธก่อน ซึ่งสิบปีหรือ 10,000 ชั่วโมง ถึงจะรู้ว่าสู้จริงไหม
555 ในที่สุดผมก็วนกลับมาตอบโจทย์ที่ตั้งไว้ได้แล้วครับ