Rovio

ย้อนกลับไปเกือบสิบปีหลายคนคงคุ้นๆ เจ้านกยั๊วะตัวสีแดงที่มีแววว่าจะมาท้าแข่งกับการ์ตูนดีสนีย์ได้ แต่แล้ว… วันนี้มันหายไปไหน?

Angry bird เกมลำดับที่ 52 ของ Rovio เคยสร้างปรากฎการณ์ให้ทั้งโลกได้ตะลึงจากเกม puzzle ง่ายๆ แค่เล็งแล้วปล่อย ก็สามารถยึดครองใจคนได้มากมาย จากเกมแรกต่อยอดออกไปอีกหลายเวอร์ชั่น โดยใช้คาแรคเตอร์เป็นแก๊งค์นกหลากสีมีเรื่องราวคือการต่อสู้กับเจ้าหมูสีเขียว หนำซ้ำยังมีหนังโรง ทีวีซีรีส์ และก็สวนสนุกของตัวเองอีกด้วย

Rovio Mobile ก่อตั้งโดยเพื่อน 3 คนจากมหาวิทยาลัย Helsinki University of Technoloy ได้แก่ Niklas Hed, Jarno Väkeväinen และ Kim Dikert พวกเขาเริ่มทำเกมเข้าแข่งขัน แล้วก็ไปชนะงานที่จัดโดย Nokia ร่วมกับ Hewlett-Packard จากนั้นในปี 2005 ก็ได้เงินทุนจาก Angel investor มาก้อนนึงจึงได้ก่อตั้งบริษัทนี้ขึ้น

แต่เรื่องราวก็ไม่ได้สวยงามซะทีเดียวเพราะบริษัทนี้ล้มลุกคลุกคลานทำท่าจะเจ๊งๆ จนเงินใกล้จะหมดแล้ว พวกเขาเหลือโอกาสอีกเพียงครั้งเดียวในการสร้างอีก 1 เกม จน ธ.ค. 2009 ผลลัพธ์ที่ได้ออกมาคือเจ้า Angry bird กลายเป็นโปรเจคชุบชีวิตบริษัทเลยทีเดียว เพราะมันมีความเป็นสากล ไม่ได้ขึ้นอยู่กับภาษา จะชายหญิงเด็กผู้ใหญ่ก็สามารถเล่นได้ ไม่ต้องทำความเข้าใจเรียนรู้อะไรมาก พวกเขาใช้เวลา 6 เดือนขึ้นสู่อันดับ 1 ใน Apple App Store แบบจ่ายเงิน และก็อยู่กันในชาร์ตยาวๆ อีกหลายเดือน

จน มี.ค. 2011 ก็ได้ระดมทุน $42 ล้าน แล้วเปลี่ยนชื่อเป็น Rovio Entertainment และก็ได้มีการ acquire บริษัทต่างๆ เข้ามาเสริมทัพตามสูตรเร่งโต
ในเดือน มี.ค. 2012 ออก Angry Birds Space ภายใต้คอนเซ็ปต์การเล่นในแรงโน้มถ่วงเป็น 0
พ.ค. 2012 ก็ได้มีการประกาศ 1 พันล้านดาวน์โหลด
ธ.ค. ปีเดียวกันก็ออก Angry Birds Star Wars ร่วมกับ Lucas Films
ปิดปีไปโดยทำรายได้สูงถึง $195 ล้าน เป็นกำไร $71 ล้าน
นับเป็น 3 ปีที่พุ่งทยานของ Rovio จนหลายคนต่างคาดหวังว่านี่คือบริษัทหน้าใหม่ที่จะขึ้นมาวัดรอยเท้ากับดีสนีย์ได้สูสี และก็เริ่มมีข่าวการ IPO ออกมา

ปี 2014 สามารถพูดได้เต็มปากหละว่าตัวเองเป็นบริษัท Entertainment ไม่ใช่บริษัทเกม เพราะรายได้จากสินค้า merchandise และ licensing ต่างๆ เกินครึ่งของรายได้ทั้งหมด
แต่อย่างไรก็ตามกลิ่นไม่ดีเริ่มกลับมาอีกครั้งจากการที่ไม่สามารถทำรายได้ได้ตามเป้าจากเกม Angry Birds Epic และ Angry Birds Go! จนส่งผลให้ต้องไล่พนักงานออกถึง 110 คน ปิดปีนี้ กำไรหดไป 73% จากปีก่อน

ปี 2015 ได้มีการเปลี่ยน CEO ให้ Pekka Rantala ขึ้นแทน Niklas Hed ไปเป็น board แต่สถานการณ์ก็ไม่ดีขึ้น
จน ส.ค. ก็ต้องมีการไล่พนักงานออกอีก 260 คนทั่วโลกเพราะของเล่นและ merchandise ต่างๆ ขายไม่ได้ตามเป้า
แน่นอนว่าปิดปีนี้ไปโดยขาดทุน และรายได้ที่ลดลงไปอีก

ปี 2016 Rantala ก็ได้ลงจากตำแหน่ง มอบต่อให้ Kati Levoranta ซึ่งเป็น Chieft Legal Officer ขึ้นเป็น CEO แทน
และด้วยเตชะบุญที่ทำไว้ ปรากฎว่าปีนี้มีรายได้จาก Angry Birds Movie ทำให้ผลประกอบกลับมาเป็นบวกอีกครั้ง สามารถทำรายได้ถึง $200 ล้าน

ปี 2017 เปิด studio ใหม่ในกรุงลอนดอนโดยโฟกัสไปที่การทำเกมแบบ massively mutilplayer online game (เกมที่เล่นได้พร้อมๆ กันหลายๆ คน) และในที่สุดก็ประกาศการ IPO ในตลาด NASDAQ Helsinki ด้วยมูลค่าบริษัทที่พันล้านเหรียญ
และปิดงบปีนี้โดยการทำรายได้เพิ่มขึ้น 55% หรือแตะ $300 ล้าน ทำกำไรได้มากกว่า $30 ล้าน โดยรายได้ของเกมเพิ่มขึ้นมากกว่า 50% จากการปรับนโยบายการ monetize ต่างๆ เพิ่มขึ้น

เมื่อชีวิตยังไม่สิ้นก็ต้องดิ้นกันต่อไป แม้ปิดงบเป็นบวก แต่นักลงทุนในตลาดกลับมองตรงข้าม ในปี 2018 ทุกคนคาดหวังสูงกว่านี้เลยทำให้ราคาหุ้น ROVIO ตกลงกว่า 50% เพราะ 3 เกมที่ออกมาใหม่ Angry Birds Match, Evolution, และ Battle Bay ไม่ได้ดังเหมือนสมัยก่อนแล้ว

อย่างไรก็ตาม Rovio ยังไม่หยุด ไม่ยอมแพ้ ยังมีความพยายามลองอีกหลายๆ อย่างเช่น ทำ VR Game บน PlayStation, ทำ AR Game บน Oculus, ทำเกม 5G กับ Samsung ก็ต้องมาดูกันต่อไปครับว่าเจ้านกยั๊วะกับ Rovio จะสามารถกลับมาผงาดได้อีกครั้งหรือไม่

Leave a Reply