ผ่านมาประมาณ 2 เดือนกว่าๆ ที่ผมได้มาเข้ามาช่วยทรูในฐานะที่ปรึกษาของ True Incube โครงการส่งเสริมศักยภาพ StartUp ที่จัดโดย Telecom Operator รายนึง(ใน 3 รายของไทย) ยังจำวันที่ ดร.ยุทธ เพื่อนผมโทรมาชวนได้อยู่เลย วันนั้นยังงงอยู่ว่าจะให้ไปช่วยยังไง ยุทธก็เล่าให้ฟังว่าคุณศุภชัย CEO สั่งการลงมาเองเลยว่าทรูต้องทำเรื่องนี้และต้องโฟกัสอย่างจริงจังด้วย เพราะ True Incube เคยจัดขึ้นมา 2 ครั้ง แล้วก็หายไปเป็นปี ศิษย์เก่าทั้งหมด 10 รายที่เข้าโครงการ ปัจจุบันก็อยู่เหลือรอด 2-3 ราย สำเร็จกลายเป็น Tech company จริงสัก 1 (อย่างที่ฝรั่งว่าไว้เลย 10 รอด 1) ตอนนั้น ecosystem ของเมืองไทยยังไม่พร้อม จำนวนคนสนใจ StartUp ยังมีไม่มาก
แต่ตอนนี้ พ.ศ. นี้บริบทต่างกันไป ผู้คนให้ความสนใจ StartUp มากขึ้น ทรูในฐานะบริษัทใหญ่บริษัทหนึ่งจึงมีความจำเป็นต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อประเทศไทยแล้ว คำถามถัดมาที่ผมถามยุทธคือแล้วทำไมต้องเป็นผม คำตอบที่ได้คือเค้าเห็นผมเริ่มทำธุรกิจเทคโนโลยีไปฝังตัวเปิดออฟฟิศอยู่ที่ Science Park ตั้งแต่รุ่นแรกๆ ผมน่าจะเป็นคนเข้าใจ StartUp มากที่สุดคนหนึ่ง ว่า StartUp ต้องการอะไรกันแน่ จะทำอย่างไรให้ภาพรวมของวงการนี้ทั้งประเทศดีขึ้น ในเมื่อเชื่อใจกัน ก็ลุยสิครับ!
เริ่มต้นอย่างที่เราทราบๆ กัน StartUp มีความเสี่ยงมากกว่าการทำธุรกิจธรรมดา แค่ business model เจ๋งๆ อย่างเดียวไม่พอ มันอยู่ที่ทีมงานด้วย อยู่ที่ปัจจัยภายนอกหลายๆ อย่าง อยู่ที่เวลา มีเรื่องร้อยแปดพันเก้าที่จะทำให้ไม่สำเร็จ แต่มันก็มีความยั่วยวนใจให้ใครหลายๆ คนอยากมาเล่นให้สนามนี้ แม้รู้ทั้งรู้ว่ามันไม่ง่ายอย่างที่คิด (แต่บางคนก็ไม่รู้ด้วยซ้ำ ยังอยู่ในความฝันหวานอยู่) ดังนั้นสิ่งที่ True Incube สมควรจะทำในฐานะของคนที่จะเข้ามาทำงานกับ StartUp ก็คือให้ความรู้ และบ่มเพาะอย่างมีสติ ผมและทีมงานที่ประกอบไปด้วย จีนนี่ และ ลิซซี่ เราสรุปกันว่าจะยึดตามหลัก 4I (Inspire . Innovate . Incubate . Invest) เพื่อให้สื่อสารและเข้าใจง่ายกับทุกคน
1. Inspire เราจะทำให้คนที่สนใจเกี่ยวกับ StartUp ได้มาเจอกัน ได้มีความรู้ที่ถูกต้อง ไม่ใช่ไปให้แรงบันดาลใจผิดๆ ว่า StartUp ดีอย่างโน่นอย่างนี้ แต่ให้สติ ภาพของเหรียญทั้งสองด้านไปพร้อมๆ กัน ตรงจุดนี้เราจะมีการจัด MeetUp และ Workshop เดือนหนึ่ง 3-4 ครั้ง มีชื่องานเรียบร้อยได้แก่
- StartUp Wednesday จัดทุกวันพุธโดยจะเชิญผู้เชี่ยวชาญ กูรู และบุคคลที่เกี่ยวข้องในวงการมาพูดคุยกัน ครั้งแรกพบกับ คุณฉัตรชัย คุณปิติลักษณ์ รองผู้อำนวยการ SIPA ในหัวข้อ นโยบายการสนับสนุน StartUp จากภาครัฐ ในวันพุธที่ 24 สิงหาคม 59
- SCAMPER การอบรมซึ่งเป็นพื้นฐานของความคิดที่ว่า สิ่งใหม่ๆ เกิดขึ้นมาจากการเปลี่ยนแปลงสิ่งที่มีอยู่เดิม โดยตัวอักษรย่อของ SCAMPER แต่ละตัวแสดงให้เห็นถึงวิธีการที่แตกต่างกันที่จะทำให้เกิดความคิดใหม่ๆ ได้แก่
- S = Substitute สิ่งทดแทน
- C = Combine นำมารวมกัน
- A = Adapt ปรับให้เหมาะสม
- M = Magnify ทำให้เพิ่มมากขึ้น
- P = Put to Other Uses ประยุกต์ใช้, นำไปใช้งานอื่น ๆ
- E = Eliminate (or Minify) ทำให้น้อยลง
- R = Rearrange (or Reverse) จัดเรียงใหม่ หรือ ทำสิ่งที่ตรงกันข้าม
- Design Thinking การอบรมกระบวนการคิดที่ใช้การทำความเข้าใจในปัญหาต่างๆ อย่างลึกซึ้ง โดยเอาผู้ใช้เป็นศูนย์กลาง และนำเอาความคิดสร้างสรรค์และมุมมองจากคนหลายๆ สายมาสร้างไอเดีย แนวทางการแก้ไข และนำเอาแนวทางต่างๆ นั่นมาทดสอบและพัฒนา เพื่อให้ได้แนวทางหรือนวัตกรรมที่ตอบโจทย์กับผู้ใช้และสถานการณ์นั้นๆ
ที่สำคัญทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายครับ ขอแค่มีใจอยากพัฒนาตัวเอง อยากพัฒนาประเทศไทยไปด้วยกัน สมัครเข้ามาเลย แค่สมัครแล้วต้องมา อย่ากันที่คนอื่นที่เค้าอยากมาแต่ลงทะเบียนไม่ทัน ก็แค่นั้นเองครับ
2. Innovate เราจะทำให้คนที่มีทีมแล้ว อย่างน้อยก็ควรประกอบไปด้วย 3H : Hustler คนหัวธุรกิจ Hipster คนหัวศิลป์ และ Hacker คนหัวตรรกะ ได้มาทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดจนได้สิ่งที่เรียกว่า MVP หรือ Minimum Viable Product ผลงานที่เล็กที่สุดที่ทำงานได้ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าจะทำสเก็ตบอร์ดก็ต้องมีแผ่นให้เท้าเหยียบมีล้อให้ครบ ถ้าจะทำจักรยานก็ต้องมีสองล้อมีโครงมีที่นั่งมีแฮนด์ หรือถ้าจะทำรถยนต์มันก็ต้องมีโครงสร้างตัวถังมีเครื่องยนต์ ตั้งเป้าให้ถูก และทำให้สุด ไม่ใช่คิดจะทำรถยนต์แต่ดันมีแค่สองล้อ มันวิ่งไม่ได้ครับ หลายคนไม่เข้าใจ พอทำจริงๆ แล้วเผลอขยาย scope งานตัวเองไปเรื่อยๆ ดังนั้นหากคน 3 ประเภทข้างต้นได้มาอยู่ร่วมกันแล้วสามารถเข้าใจในด้านที่ตนเองไม่ถนัด ได้เห็นภาพรวมของการเริ่มต้นสร้าง StartUp ไปด้วยกัน และนำไปสู่การมี commitment ที่จะทำงานร่วมกันต่อ เราจะได้ทีมที่แข็งแกร่ง ดังนั้นผมเลยได้เชิญผู้เชี่ยวชาญมา 4 ท่าน ได้แก่
- พี่ไวท์ : ชาคริตจาก FireOneOne ผู้มีประสบการณ์คร่ำหวอดในวงการสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านซอฟแวร์และเทคโนโลยีมายาวนาน เป็นตัวแทนของ Hustler
- คุณเก่ง : สิทธิพงศ์จาก RGB72 ผู้เชี่ยวชาญด้าน UX UI มีประสบการณ์การออกแบบเว็บไซต์ชั้นนำมามากมาย เป็นตัวแทนของ Hipster
- พี่ปอม : กุลวัฒน์จาก Lean In Consulting ผู้นำด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์แบบ Agile จะมาเป็นตัวแทนของ Hacker (ซึ่งจะมาพร้อมกับคุณกมล)
- คุณบิลลี่ : พชรจาก SpeakPro Training โค้ชด้านการนำเสนองานหรือ Pitching ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาทรัพยากร ซึ่งจะมาขมวดปมทั้งหมดให้ StartUp นำเสนอได้เป็น
และแน่นอนทั้งหมดนี้ก็ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายครับ มาแต่ตัวกับหัวใจ และสิ่งที่เราเรียกว่า Passion มาเรียนรู้ไปพร้อมๆ กัน แบบใครที่ยังมีงานประจำก็ไม่ต้องลาออกด้วยนะครับ เพราะใช้เวลาศุกร์เย็น และเสาร์อาทิตย์ เป็นเวลา 2 สัปดาห์ จึงเป็นที่มาของชื่อหลักสูตรที่เรียกว่า “Innovation Weekend” เราเปิดรับตลอดทั้งปีและมีการอบรมทุกๆ เดือนเว้นเดือน เริ่มตั้งแต่เดือน ส.ค. เว้นไป ต.ค. และคลาสสุดท้ายของปีในเดือน ธ.ค. รุ่นหนึ่งจะอบรมทั้งหมด 20 ทีม หวังว่าสักทีมจะสามารถไปเปลี่ยนแปลงความเป็นอยู่ชีวิตของผู้คนให้ดีขึ้นได้จริงๆจังๆ อย่างมีนวัตกรรมครับ
3. Incubate ถึงจุดนี้ StartUp ที่มี Product แล้ว กำลังต้องการหาพาร์ทเนอร์ อยากเข้าใจตลาด เข้าใจผู้คน และขยายตลาดไปพร้อมกับเครือทรู ผมได้ออกแบบหลักสูตรไว้อีกตัวที่เรียกว่า “Incubation & ScaleUp” เพราะเราจะบ่มเพาะธุรกิจไปด้วยกันเป็นเวลา 3 เดือน ตรงนี้ไม่ได้เน้นเรื่องการเรียนแล้วแต่เป็นการลงสนามจริง ทำงานไปพร้อมๆ กับ BU (Business Unit) ที่เกี่ยวข้องของทรู ศึกษาลูกค้า วัดผล ปรับปรุงตลอดเวลา เป็น continue development เพื่อให้ Product สามารถกลายเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้และผลกำไรได้จริง นอกจากนี้ยังมีผู้รู้ที่มีประสบการณ์มาแชร์เรื่องราวของพวกเขาในแต่ละสัปดาห์ มาเล่าเรื่องจริงที่ไม่สามารถหาได้จากห้องเรียนไหน ครั้งนี้ผมต้องขอบคุณจากส่วนลึกของจิตใจ สำหรับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ Founder จาก StartUp ต่างๆ ทั้งที่ประสบความสำเร็จไปแล้ว และยังฝ่าฟันอยู่ในสนามรบแห่งนี้อยู่ ได้แก่
พี่หมู จาก COL (Central Online) หรือ พี่หมู OfficeMate จะมาแชร์ในธีม Entrepreneurship(ถอนตัวด้วยปัญหาสุขภาพ)- พี่ต็อป จาก AdaSoft ในธีม Entrepreneurship
- พี่บู้ จาก ReadyPlanet ในธีม Operation & Management
- พี่แซม จาก StyleHunt ในธีม Customer Development
- คุณบอนด์ จาก Washbox 24 ในธีม Vision
- คุณแม๊กซ์ จาก Eventpop ในธีม Company Culture
- คุณน้อย จาก LnwShop ในธีม Product Development
- คุณทอม จาก Sellsuki ในธีม Growth
- คุณโค้ก จาก Fiveloop ในธีม VC
- คุณอ้อ จาก Jitta ในธีม Marketing
- คุณไว จาก PriceZa ในธีม Scaling
- คุณดอนนี่ จาก Omise ในธีม Fundrasing
- คุณกุดั่น จาก Kudun & Partners ในเรื่อง Legal, IP and Accounting
ทั้งหมดทั้งหลายทั้งปวงนี้ ทางทรูยังมีเงินทุนสนับสนุนให้ด้วยเป็นเงินสดๆ 700,000 บาท และ in kind benefit ต่างๆ อย่างเช่นสื่อการโฆษณาประชาสัมพันธ์อีกต่างหาก 1,000,000 บาท ขอให้ทีมคุณเจ๋งจริง product ดีจริง มีใจ มีของ ทุ่มเทเต็มที่ ไม่ว่าจะสำเร็จหรือล้มเหลวเราก็พร้อมจะไปด้วยกัน ทั้งนี้ทรูขอถือหุ้นในบริษัทแค่เพียง 5-8% เท่านั้น
แต่อย่างไรก็ตาม การจะเข้าโครงการ “Incubation & ScaleUp” นี้ก็ไม่ได้ง่ายนะครับ เพราะมีกระบวนการคัดเลือก กลั่นกรอง กันแบบบีบหัวใจสุดๆ ทุกทีมที่สมัครเข้ามาทางออนไลน์ จะผ่านการอ่านใบสมัครอย่างละเอียด ใครเขียนแบบขอไปที และก็จะถูกข้ามไปทีเช่นกัน และสำหรับคนที่แลดูมีศักยภาพเราก็จะเรียกสัมภาษณ์ คุยกันจนแน่ใจว่าแน่จริง! ก็จะสรุปเลือกมา 15 ทีมก่อน เพื่อส่งไปให้ Incube Captain พิจารณาอีก 3 รอบ ได้แก่ รอบ Team, รอบ Product, และ รอบ Overall ให้เหลือเพียง 5-8 ทีมเท่านั้น ส่วนกรรมการจะเป็นใคร ผมขออุบไว้ก่อน ที่แน่ๆ ถ้าสนใจรีบสมัครก่อน 19 สิงหาคม 59 และจะประกาศผล 15 ทีมในวันที่ 2 กันยายน 59 เวลาไม่เคยคอยใครครับ รออะไรอยู่ click เลย
4. Invest สุดท้ายปลายทาง สำหรับ StartUp ที่ทางทรูคิดว่าสามารถทำงานไปด้วยกันได้ เค้าก็มีเงินลงทุนต่างหากก้อนใหญ่ทีเดียว ผมไม่สามารถบอกได้ในที่นี้ คงต้องให้ทางทรูประกาศเอง เอาเป็นว่าการกลับมารอบนี้ของ True Incube ไม่ได้มาเล่นๆ นะครับ มันใหญ่มาก
ภาระหน้าที่ของผมในส่วนนี้มาได้ครึ่งทางแล้ว ในฐานะที่ปรึกษาโครงการก็คงจะรอคอยดูว่าที่วางแผนร่วมงานกับทีมมาโดยตลอดจะประสบความสำเร็จได้มากน้อยแค่ไหน ประเทศไทยจะมี StartUp ที่มาขับเคลื่อน ผลักดันประเทศ ที่ผ่านโครงการ True Incube มากน้อยสักเท่าไร สังคมไทยจะเปลี่ยนแปลงไประดับไหน ผมพยายามเต็มที่ในส่วนของผมแล้ว ที่เหลือก็อยู่ที่ว่าคุณจะเลือกกินยาเม็ดไหน สีน้ำเงิน หรือ สีแดง ในหนัง The Matrix มอร์เฟียสได้พูดกับนีโอไว้ว่า “นี่คือโอกาสสุดท้ายของคุณ หลังจะนี้จะไม่มีการหวนกลับมาอีก ถ้าคุณเลือกเม็ดสีน้ำเงิน ทุกอย่างจบ คุณตื่นขึ้นจากเตียงและก็เชื่อต่อในสิ่งที่คุณอยากจะเชื่อ ถ้าคุณเลือกเม็ดสีแดง คุณจะอยู่ในแดนมหัศจรรย์ และผมจะแสดงให้คุณเห็นว่าโพรงกระต่ายมันลึกแค่ไหน”
“The time has come to make a choice, Mr.Anderson.
Either you choose to be at your desk on time from this day forth…
…or you choose to find another job.”
อยากจะมาเป็น StartUp หรืออยากอยู่อย่างเดิมๆ ใน comfort zone ของคุณ คุณเลือกเองครับ
Leave a Reply