แน่ใจแล้วหรือ? จะมาเป็น Startup

จาก lecture “How to Start a Startup” ของ Dustin Moskovitz หนึ่งใน Co-founder ของ Facebook ตั้งคำถามไว้น่าสนใจมาก สำหรับคนที่จะก้าวเท้ามาทำ Startup ว่า คุณแน่ใจแล้วหรือ?
เพราะจากประสบการณ์ของเค้าพบว่าคนที่อยากจะมาเป็น Technopreneur มักจะให้เหตุผลที่คล้ายๆ กันอยู่ 4 อย่างคือ

(1) งานนี้มีเสน่ห์ น่าสนใจ
สาเหตุส่วนนึงที่มันดูเจ๋ง ดูดี มีเสน่ห์ เพราะภาพสื่อความสำเร็จที่เราได้เห็น
เราได้เห็น facebook ที่มีคนใช้ทั่วโลก เราได้เห็นภาพในหนังเรื่อง Social network ซึ่งมันดูเท่ม๊าก
แต่อันที่จริงแล้ว นาย Mark ไม่ได้ใช้ชีวิตสุดหรรษา Party กันทั้งวันทั้งคืนตอนเค้าเริ่มทำ facebook
เบื้องหลังความสำเร็จคือ การที่เขานั่งคลุกอยู่บนโต๊ะตัวเดิมเป็นวันๆ เดือนๆ เพื่อให้งานเสร็จออกมา

ความกดดันที่เกิดขึ้นคือ
– ทีมงานเดิมพันชีวิตของเค้าไว้กับคุณ
– คุณจะต้องพร้อมตลอดเวลา
– คุณจะต้องคอยหาทุนมาเลี้ยงบริษัท

mark-zuck

(2) ฉันอยากเป็นนายคน
Phil Libin, CEO ของ Evernote กล่าวไว้ว่า
ผู้คนส่วนใหญ่มีภาพว่าการเป็น CEO ของบริษัทคือการทำงานอยู่บนยอดของพีรามิด
แต่อันที่จริงแล้วกลายเป็นว่าทุกคนคือ boss ของคุณ ทั้งหมดเลยไม่ว่าจะเป็นลูกจ้าง ลูกค้า คู่ค้า ผู้ใช้ หรือสื่อ ทุกคนกลายเป็นเจ้านายคุณ
ชีวิตของ CEO ส่วนใหญ่คือการรายงานเรื่องราวต่างๆ ให้ทุกคนทราบ
ถ้าคุณอยากจะสั่งคนอื่นหรือใช้อำนาจบัญชาการก็จงไปร่วมกองทัพซะหรือไปเล่นการเมือง อย่ามาเป็นผู้ประกอบการ

(3) มันยืดหยุ่น คล่องตัว
นอกจากนี้ Phil ยังเคยพูดอีกว่า
การเป็นผู้ประกอบการ คุณจะได้รับเวลาที่ยืดหยุ่น นั่นแปลว่าคุณสามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมงต่อวันตามที่คุณต้องการ
เพราะ
– คุณต้องพร้อมตลอดเวลา
– คุณต้องเป็น role model
– คุณต้องทำงานได้ทุกที่

(4) ฉันจะทำเงิน และสร้าง impact ใหกับโลกใบนี้
ใช่ถ้าสิ่งที่คุณทำประสบความสำเร็จอย่าง facebook หรือ dropbox การเป็นพนักงานรายแรกๆ รวยแน่นอน

financial_and_impact

โดยสรุปแล้ว พื้นฐานสาเหตุที่จะทำมันคล้ายๆ กัน
ดังนั้นเราน่าจะถามตัวเองว่าอะไรคือเหตุผลที่เราไม่ทำไม่ได้แล้ว
และคุณมี 2 ข้อนี้ไหม?

(1) Passion : คุณต้องการทำมันจากก้นบึ้งของจิตใจ
– คุณต้องการ passion เพื่อให้สามารถผ่านพ้นอุปสรรคไปได้ ไม่เช่นนั้นเจอปัญหาคุณอาจท้อและล้มเลิก
– คุณต้องการ passion เพื่อดึงคนมีความสามารถมาร่วมงานด้วย เพราะคนเก่งไม่ได้ต้องการแค่เงินอย่างเดียว เค้าต้องการทำงานกับคนที่มีวิสัยทัศน์ มีไฟปรารถนาที่แรงกล้า

(2) Aptitude : โลกใบนี้ต้องการคุณให้ทำมัน
– เพราะโลกต้องการให้คุณทำ คนเป็นคนเดียวที่ทำสิ่งนี้ได้ดีที่สุด ที่ผ่านมาไม่เคยมีใครทำในแบบที่คุณกำลังจะทำ และผลลัพธ์มันคือการเปลี่ยนโลก ไม่เช่นนั้นก็ไปทำอย่างอื่นซะที่โลกใบนี้ต้องการ

สุดท้ายเขาได้ทิ้งท้ายหนังสือแนะนำไว้ 6 เล่ม ดังต่อไปนี้
• The Hard Thing About Hard Things
• Zero to One
• The Facebook Effect
• The 15 Commitments of Conscious Leadership
• The Tao of Leadership
• Nonviolent Communication

Leave a Reply