ช่วงสองสามปีที่ผ่านมาผมได้มีโอกาสร่วมงานกับกูเกิลหลายโครงการ และก็ได้เห็นการสร้างระบบนิเวศน์ของกูเกิลที่น่าสนใจมาก เลยอยากจะแชร์ให้เพื่อนๆ Startup ได้ฟังกันครับ
เริ่มจากทุกคนที่ใช้อินเทอร์เน็ตรู้ว่ากูเกิลคือ Search engine นึกอะไรไม่ออกถาม “อากู๋” รู้หมด หาได้ทุกอย่างบนโลกใบนี้
และคนทั่วไป ส่วนใหญ่ก็จะคิดว่ากูเกิลใช้ฟรีดีจะตาย แล้วเค้าจะเอาเงินมาจากไหนหละ?
คำถามนี้คนในวงการดิจิตอลรู้ดีว่ากูเกิลให้บริการคนทั่วไปฟรี และมีรายได้มาจากการเก็บเงินค่าโฆษณาครับ
ซึ่งปัจจุบันมันกลายเป็นศาสตร์ใหม่ที่ไม่ว่าจะบริษัทยักษ์ใหญ่หรือ SMEs ก็จำเป็นจะต้องรู้เกี่ยวกับเรื่องการทำการตลาดด้วย Search engine หรือ SEO & SEM นั่นเอง
ย้อนกลับไปช่วงปี 1999 ที่ผมได้รู้จักกูเกิลครั้งแรก ผมคุ้นๆ ว่าตอนนั้นเค้ายังไม่มีโฆษณาอะไร
ช่วงนั้น Google กำลังท้าชนกับ Yahoo! เมืองไทยก็มี Sanook! ให้เล่นไปพลางๆ คอนเซ็ปต์ของ search engine เริ่มเข้ามาแทนที่ directory
เวลาผ่านไป กูเกิลต้องหารายได้ และเขาก็ไปเจอ Business model ที่เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด นั่นก็การขายโฆษณาในรูปแบบที่เป็น text
ผมลองค้นข้อมูลดูกูเกิลเริ่มให้บริการโฆษณาในชื่อ Google AdWords ราวเดือนตุลาปี 2000 ซึ่งในช่วงแรกยังเป็นลักษณะการจ่ายแบบรายเดือน แล้วก็ไม่ได้ฉลาดเหมือนระบบในปัจจุบัน
ทุกวันนี้กูเกิลมาไกลจากเดิมมากครับ รูปแบบโฆษณามีทั้ง text, banner, VDO ทั้งบนเว็บ บนโมบาย ครอบคลุมทุกอย่าง
และที่สำคัญกลไกการทำงาน ลักษณะการคิดเงินแบบ Pay Per Click (PPC) ที่ฟังแล้วยุติธรรม เพราะคนดูถ้าไม่คลิกก็ไม่ต้องจ่าย
ผมก็เคยมีคำถามว่าแล้วถ้าคู่แข่งกดเล่นหละ ก็ได้คำตอบว่ากูเกิลก็มีระบบการตรวจจับพฤติกรรมดังกล่าวด้วยครับเพื่อไม่ให้เกิดการกลั่นแกล้งโกงกันในระบบ
คนทำมาค้าขายอยากให้คนรู้จักเว็บไซต์ตัวเอง อยากให้ search เจอในกูเกิลก็สามารถไปซื้อโฆษณาที่ว่าได้ใน Google AdWords
ยิ่งคนคลิกเยอะ ก็จ่ายค่าโฆษณาเยอะขึ้นตามไปด้วย
จากตอนแรกที่ขายโฆษณาอยู่เว็บเดียวคือที่ www.google.com เอง ก็ขยายเริ่มมีพันธมิตรมีเครือข่ายกลายเป็น Google Network
ซึ่งนี่แหละครับเป็นอีกจุดที่ไม่ได้กินรวบ การมี Google AdSense เป็นส่วนหนึ่งที่เปิดโอกาสให้เว็บเล็กๆ ซึ่งต้องการหารายได้ เอาโฆษณาของกูเกิลไปติดแล้วแบ่งเงินกัน
แล้วโฆษณาก็ไม่ใช่เรื่องอะไรก็ได้ ส่งไปมั่วๆ นะครับ แต่เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาของเว็บนั่นๆ เพราะกูเกิลมีการวิเคราะห์หน้าเว็บไซต์แต่ละหน้าอยู่แล้ว
ข้อดีคือ
1. คนรู้จักกูเกิล และ Google AdWords สามารถขายโฆษณาได้มากมายอยู่แล้ว
2. เว็บเล็กๆ อยากหารายได้ แต่ก็ไม่รู้จะไปขายโฆษณาเองอย่างไร นี่คือคำตอบ
ดังนั้นเมื่อเป็นไปตามหลักการ Long tail แล้ว กูเกิลจึงกลายเป็นคนกลางที่สามารถเชื่อมโยงผู้คนเข้ากับเว็บน้อยใหญ่ทั่วโลกได้
สร้าง traffic พาคนไปหา และแบ่งรายได้ส่วนนึงให้อีกด้วย เป็นไงหละครับ
ยิ่งมีเว็บร่วมมาก กูเกิลก็เหมือนยิ่งมีหน้าร้านขายของ(โฆษณา)ได้มาก ก็แปลว่าสามารถเพิ่มรายได้ให้ตัวเองมากขึ้นตามไปด้วย
มาถึงจุดนี้ผมเชื่อว่าทุกคนคงพอเห็นภาพคร่าวๆ และเข้าใจวิธีการทำเงินที่ว่ามาจากโฆษณาของกูเกิลแล้วหละ
อันทีจริง Google AdWords เป็นระบบที่ผู้ซื้อโฆษณาสามารถเข้ามาบริหารจัดการได้ด้วยตัวเอง แต่มันก็ไม่ได้ใช้งานง่ายซะขนาดนั้น
ต้องบอกว่าด้วยความเป็นเทคโนโลยีดิจิตอล เราสามารถระบุความต้องการที่ชัดเจน และสามารถวัดผลได้อย่างแม่นยำมากๆ
ดังนั้นคนที่จะมาซื้อโฆษณาให้ได้ประสิทธิภาพต้องมีความรู้ความเข้าใจระดับนึงเลยทีเดียว ว่ากลไกการทำงานของระบบนี้เป็นเช่นไร
บริษัทใหญ่ส่วนใหญ่จึงใช้ Agency ในการทำงานด้านนี้แทน ซึ่งก่อก็ให้เกิดบริษัทที่เป็น Digital agency โดยตรงตามมา
ว่าแล้วสิ่งที่กูเกิลทำต่อคือการสร้างพันธมิตรโดยการทำโครงการ Google Partner เพื่อช่วยบริษัท Agency ต่างๆ เหล่านี้
จัดอบรมสัมมนา จัดการสอบ certificate และช่วยแก้ปัญหา ไขข้อข้องใจต่างๆ ทำ call center ให้ ช่วยอำนวยความสะดวกทุกอย่าง
เพื่อให้ Agency ทำงานได้ง่ายขึ้น เพื่อให้ช่วยขายโฆษณาให้กูเกิลมากขึ้น
และวันนี้กูเกิลมีอีกโครงการชื่อ Google Ignite ในการผลิตคนให้มีความรู้ความสามารถเพื่อไปช่วยงาน Agency
สิ่งที่กูเกิลริเริ่มทำคือ การหาพันธมิตรในระดับมหาวิทยาลัย เข้าไปอบรมถึงในรั้วฟรี มีจัดสอบให้ cert ฟรี มีของรางวัลหลอกล่อเพียบ และมีตำแหน่งงานในอนาคตให้อีกด้วย
จิ๊กซอว์แต่ละตัวที่กูเกิลค่อยๆ ต่อขึ้นมาสร้างความเข้มแข็งให้กับธุรกิจของตนเอง และกลยุทธที่ใช้ก็เป็น win-win strategy ที่ทำให้ทุกฝ่ายที่เข้าร่วมรู้สึกเห็นว่าได้ประโยชน์
ครับ จากบทเรียนนี้จะเห็นได้ว่า นอกจากการสร้าง Product ให้เจ๋งแล้ว การสร้างระบบนิเวศน์ของตนเองยังเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ อีกด้วย
เรื่องที่ยากที่สุดสำหรับ Startup ไม่ใช่ระบบนะครับ จริงๆ แล้วมันคือเรื่องคน
ไม่ว่าจะเป็นการทำยังไงให้คนใช้ ทำอย่างไรให้คนชอบ คนบอกต่อ และทำให้คนยอมจ่ายเงินให้เรา
ทุกก้าวย่างมีความสำคัญและก่อให้เกิดผลกระทบซึ่งกันและกัน ความสำเร็จเริ่มขึ้นได้จากก้าวแรกครับ
ผมหวังว่าทุกคนจะค่อยๆ ต่อจิ๊กซอว์ทีละชิ้น ทีละชิ้น อย่าเพิ่งท้อก่อนถึงภาพจะเสร็จนะครับ
Leave a Reply